วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เล่าเรื่องบ้านสองพี่น้องน่าเที่ยว









วัดสองพี่น้อง คลองสามสาย หัวควายใหญ่ ไผ่เฉียงรุน เขาหุ่นเจดีย์ พึ่งบารมีหลวงปู่อั้น
ท่องเที่ยวชมธรรมชาติ โดย ปณิธาน เรืองไชย : peelaung@yahoo.co.th

…………………………………………………………………………………………………………………
วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ อาศัยตัวเองเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน เลยติดตามไปดูนักเรียน ชั้น ป.๕-ป.๖ โรงเรียนวัดสองพี่น้อง ต.คลองศก อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี เข้าค่ายวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อสำนึกรักษ์บ้านเกิด ณ บริเวณหน่วยย่อย คน.๑ บ้านคลองพนม ของอุทยานแห่งชาติคลองพนม ดำเนินการโดยสมาชิกชมรมอนุรักษ์สัตว์น้ำวัดสองพี่น้อง อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี ลองตามรอยคำขวัญของบ้านสองพี่น้อง ที่ขึ้นหัวเรื่องไว้ และเก็บภาพมาฝากกัน ลองทัศนาดูนะครับถูกใจ ผ่านถนนสายสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า บริเวณหลักกิโลเมตรที่ ๘๒ แวะพิสูจน์บางส่วนแล้วท่านจะหายเหนื่อยและเมื่อยล้าทันที
ก่อนตามนักเรียนเข้าไปที่ค่ายเพื่อความมั่นใจ ว่าปลอดภัยในการเดินทาง ประมาณ ๘ ก.ม. แวะขอพรจากรูปปั้น หลวงปู่อั้น เสียก่อนที่วัดสองพี่น้อง พอเข้าบริเวณวัด ในปัจจุบันท่านพระอธิการสถิต ปริสุทโธ เป็นเจ้าอาวาส ดำเนินการปรับภูมิทัศน์สวยงาม ร่มรื่น ทั้งไม้ดอกไม้ประดับ มองไปทางหน้าวัดเห็นเขาโหลนตั้งสง่าน่าเกรงขามแต่ก็น่ามอง เดินไปที่ คลองศก บริเวณคลองสองพี่น้องตัดผ่าน มีแพและศาลาชมวิวทิวทัศน์ชมสัตว์น้ำของชมรมอนุรักษ์ ให้นั่งดูทั้งปลาหลากหลายพันธุ์อยู่กลางขุนเขา วัดสองพี่น้องตั้งเมื่อไรไม่บังอาจเล่าความก่อนเกิด แต่มีหลักฐานที่ท่านเจ้าคุณเกตุ ธัมมวโร อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประพันธ์นิราศพนมไว้ในปี ๒๕๐๒ ว่าไว้ดังนี้ “วัดนี้สร้างปากบางสองพี่น้อง ชื่อจึงข้องกับถิ่นสถานที่ พ่อท่านพหรมสมภารอยู่นานปี(๒๔๓๐) ท่านผู้นี้สร้างมาคราโบราณ........ปีสองสี่เก้าสามถึงยามมรณ์ ผู้รับตอนต่อมาแต่ครานั้น เอาใจใส่สร้างวัดจัดหลักฐาน ทำหน้าที่สมภารคือท่านอั้น ทั้งเป็นที่ใบฎีกามีฐานันตร์ ปัจจุบันส่วนล้วนทวี” หลวงปู่อั้น มีวาจาสิทธิ์ มีคนศรัทธาข้ามเขตจังหวัดไปถึงภูเก็ต พังงา ระนอง ทั้งเรื่องวาจาสิทธิ์ ร่นระยะทางในการเดินทาง การตีหวยจากท่าทางของหลวงปู่ การมีวิสัยทัศน์มองการไกล (ซึ่งผมพยายามรวบรวมเรื่องนี้จากลูกศิษย์ ลูกหลาน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จริงที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อรวมเล่มให้ได้อ่านกันครับ) และความเกี่ยวข้องกับ”ร่มเมือง” ควายใหญ่ตัวโปรดของหลวงปู่ซึ่งเป็นควายที่ คุณตาเชิ้ม ชมบุญ ลูกศิษย์หลวงปู่ คุยว่าไม่ธรรมดาเหมือนกันในด้านอภินิหาร จะเห็นได้จากมีการปิดทองคำเปลวเต็มไปหมด เป็นเครื่องการันตี
ออกจากวัดมุ่งหน้าไปทางเขาพรุชิง “ภูเขาหุ่นเจดีย์” อยู่ทางทิศใต้ของวัด เพื่อเร่งติดตามไปให้ทันเปิดการเข้าค่ายซึ่งนัดท่านนายกดำรง แต่งนวล นายก อบต.คลองศกไว้บริเวณค่ายวิทยาศาสตร์ที่คุณตาประทีป คงไล่กับสมาชิกชมรมอนุรักษ์และชาวบ้านหมู่ที่ ๘ ต.คลองศก และเจ้าหน้าที่อุทยานคลองพนม เตรียมสถานที่ไว้เรียบร้อยพร้อมใช้ทำกิจกรรมได้ทันที ยังสมบูรณ์จริงๆทิวเขานี้ มองให้ดี จะเห็น “ไผ่เฉียงรุน” ว่ากันว่าเป็นไม้ไผ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เส้นรอบวง ประมาณ ๖๐-๘๐ เซนติเมตร ลำต้นยาวประมาณ ๓๐-๔๐ เมตร ความหนาของเนื้อไม้ประมาณ ๑ นิ้วฟุต จะขึ้นอยู่ในป่าที่ยังอุดมสมบูรณ์เท่านั้น ตอนนี้หาไปครอบครองได้ยากเสียแล้วเพราะอยู่ในเขตหวงห้าม ชมได้อย่างเดียว คนเฒ่าคนแก่เล่าว่า ที่ชื่อนี้เพราะลำต้นใหญ่ ต้องใช้มีดพร้าผ่า ซึ่งคนบ้านผมเรียกว่า”เฉียง” แล้วช่วยกันดัน ที่บ้านผมเรียกว่า “รุน” จึงจะนำไปใช้งานได้ เป็นไม้พวกเดียวกับไผ่ตง สมัยผมเด็กๆที่บ้านทำบุญเลี้ยงพระใช้หน่อไผ่เฉียงรุน ๒ หน่อเลี้ยงคนได้ทั้งงานครับ
เสียคนแล้วครับ มัวเที่ยวชมข้างทางไปถึงท่านนายกดำรงกับตาทีป เปิดงานพาเด็กเดินป่าศึกษาธรรมชาติเสียแล้ว ตามครับเพราะรู้ว่าไปทางทิศตะวันตกของที่ทำการอุทยานหน่วยย่อย คน.๑ ขึ้นภูเขาไปที่ถ้ำเพื่อศึกษาชีวิตสัตว์ป่าและพืชต่างๆ ผมตามไปทันก็เก็บภาพมาฝาก ภาพไหนที่ไม่ได้ถ่ายก็ได้รับความอนุเคราะห์จากวิทยากรท้องถิ่นของผม(ก็คุณตาประทีป คงไล่ อดีตหัวหน้าหน่วยศึกษานิเทศก์ ที่ลาออกจากราชการมาประกอบธุรกิจส่วนตัว และช่วยเหลือสังคม) บรเวณนี้จะพบกับ บัวผุด ดอกบัวที่อยู่บนบกที่ใหญ่ที่สุดในโลกเหมือนกัน มีคุณสมบัติทางยาสมุนไพร แก้อะไรผมไม่บอกเพราะเดี๋ยวจะสูญพันธุ์เพราะมีอยู่ในเทือกเขาแถบนี้เท่านั้น ผมว่าท่านกวีโบราณ ท่านสุนทรภู่น่าจะเคยรู้จัก เพราะท่านเขียนไว้ในเรื่องพระอภัยมณี ตอนที่นางละเวงที่เมืองแขกได้กิน”นมดิน” ผมว่าน่าจะเป็นจินตนาการขณะที่ดอกบัวผุดบาน มีคนเล่าว่าขณะบานจะมีเสียงดังมากครับ ในป่าผืนนี้ยังมีสัตว์ให้ดูหลายอย่างครับ
หลังจากนักเรียนได้ศึกษาระบบนิเวศในป่า ทั้งพืชและสัตว์แล้ว โปรแกรมต่อไปคือ ล่องคลองพนมด้วยยางในรถยนต์ เพื่อศึกษาธรรมชาติของระบบนิเวศในและริมคลองพนม ซึ่งมีน้ำไม่ลึกนัก นำนักเรียนไปปล่อยด้านทิศตะวันตกของอุทยานคลองพนม หน่วยย่อย คน.๑ ไกลจากที่ทำการประมาณ ๓ ก.ม. นำทางโดย ลุงจัน ศักดา และสมาชิกชมรมอนุรักษ์ ทิวทัศน์บริเวณนี้ยังสวยงามน่าดูชม เสร็จจากศึกษาธรรมชาติ วิทยากรท้องถิ่น และประธานชมรม น้าเกรียงศักดิ์ แก้วนิมิต ฝึกให้หลามข้าวกับไม้ไผ่ เพื่อดำรงชีวิตในป่า การเดินตามรอยคำขวัญหมู่บ้านสองพี่น้องก็เป็นอันสิ้นสุดลง ขออาราธนาอำนาจบุญบารมีของหลวงปู่อั้น (พระครูวิริยาธิการ) ฐานะทินโน จงคุ้มครองให้ท่านรอดปลอดภัยจากภัยพาลทั้งปวง และให้ประสบพบแต่ความสำเร็จในเรื่องที่ปรารถนาทุกประการเทอญ.....ผ.อ.ปณิธาน เรืองไชย