วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ย้อนรอยอดีตในลาวเมษา๕๓




















สามตากะสองลุงตะลุยลาว
พุธที่ ๘ เมษายน – จันทร์ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๓
โดย “ลุงอ๊อต” (ผ.อ.ปณิธาน เรืองไชย)
***************************

ได้ฤกษ์ดี ยาม ๒๒ นาฬิกากว่าๆ ออกเดินทางจากบ้าน ของลุง-ผ.อ.ป้าเหม่ง หน้าโรงเรียนบ้านลูกเดือน ด้วยรถมิซูบิชิปาเจโรสปอร์ต ๗ ที่นั่ง ซึ่งมีผู้เดินทาง ๕ คน คือ ลุง(ผู้ขับรถ) ผ.อ.ป้าเหม่ง (เจ้าของรถ) ตาเชิ้ม(ชมบุญ) ตาผู้ใหญ่ดำ(สมบูรณ์ เภตรา) ตาฉาย(สุวรรณเสน) ของวันพุธ ที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๓ ปลายทางจังหวัดมหาสารคาม ไปทางถนนเพชรเกษม ขึ้นทางสุพรรณตัดออกอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกถนนหลวงหมายเลข ๓ มุ่งหน้าทางจังหวัดสระบุรี

๑๓.๑๕ น. ของวันที่ ๘ เมษายน ๕๓ ทะลุออก วิหารหลวงปู่โต อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา สร้างโดยพระเอกหนังสรพงษ์ ชาตรี ในภาพ ตาดำ ตาเชิ้ม ตาฉาย นั่งพักเอาแรงก่อนไปนมัสการหลวงปู่โต ลุงเป็นผู้ถ่ายภาพ(ส่วนมากไปไหนภาพมักไม่ค่อยมี และเวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. ถึง บ้านมะค่า หมู่ที่ ๒ ต.มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม บ้านพ่อใหญ่อาจ-แม่จีน แก้วผล พ่อ แม่ ของ ป้าเหม่ง

เวลา ๑๒.๐๐ น. ๙ เมษายน ๕๓ คุณตาทั้งสาม พร้อมลุง อยากจะไปดู ทุ่งนาริมแม่น้ำชีของ น้าหยุย-น้าทองคำ ชะสี(น้องสาวของป้าเหม่ง โดยที่คุณตาอาจ ยายจีน (ศรีบุญเรือง)แก้วผล มีบุตร ๓ คน คือป้าเหม่ง น้าหยุย และน้าหนุ่ย) ด้านหลังตาเชิ้ม เป็นแม่น้ำชี ในภาพ ตาดำ ตาเชิ้ม น้าหยุย ครูอ๊อต ถ่ายภาพ

เวลา ๐๘.๐๐ น. ๑๑ เมษายน ๕๓ ออกเดินทาง จาก จ.มหาสารคาม ผ่าน จ.ร้อยเอ็ด ที่ตรงนี้ตำรวรวจทางหลวงจับความเร็ววิ่งราว ๑๔๐ แต่รอดตัวเพราะตาเชิ้มแต่งชุดหล่อบอกเขาว่าไปดูงานลาวตำรวจใจดีบอกให้รีบไป เข้าสู่ จ.ยโสธร เพื่อนำ รถปาเจโร่ ไปฝากไว้บ้าน ลุงแอ๊ต(น้องชายของลุง) แล้วต่อด้วยรถเก๋งของลุงแอ๊ต เพื่อเดินทางออกปะเทศลาว มีคณะเดินทาง ๕ คน มีลุง ตาเชิ้ม ตาดำ ตาฉาย ลุงแอ๊ตเป็นผู้ขับรถ เข้าทางช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ในภาพข้างบน เป็นฝั่งลาว เรียกว่าบ้านวังเต่า (ฝั่งไทยเป็นช่องเม็ก) รอประทับตราเข้าเมืองด่านของประเทศลาว และแลกเงิน คนละ ๑,๐๐๐ บาท ได้ คนละ ๒๕๘,๐๐๐ กีบ ถือว่ารวยพอสมควร อากาศร้อน น้ำส้มลาวหวนกับกระท่อม
๑๔.๐๐น. ถึงเมือง “ปากเซ” เมืองเอกของแขวงจำปาสัก ซึ่งคณะของเรา สามารถอยู่ในลาวได้ ๒ คืน กับ ๓ วัน ในแขวงจำปาสักไปที่แขวงอื่นไม่ได้ และเดินซื้อของที่ ตลาด “ดาวเรือง”

๑๕.๐๐ น.มุ่งหน้าไป บ้านบาเจียง ไปทางเมืองปากช่อง ต้องเสียค่าผ่านทาง ถ้ารถเครื่องไม่ต้องเสีย ๕,๐๐๐ กีบ ประมาณ ๒๐ บาท ทั้งไปและกลับ ระหว่างทางเห็นสวนทุเรียนพื้นเมืองกำลังออกลูกพร้อมเงาะพื้นเมือง ถึงบริเวณสวน พรรคพวกของลุงแอ๊ตที่ บ้านบาเจียง ปลูกไม้สักทอง และที่เห็นเป็นทิวข้างหลังสีเขียวเป็นแปลงยางพารา ของชาวเวียดนาม ซึ่งมาเช่าที่ดินระยะยาว ๕๐ ปี ป่าผืนนี้อีกไม่กี่กิโลเมตร ก็เป็น แขวงสาละวัน เราไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป สภาพตอนนี้เหมือนกับประเทศไทยบริเวณบ้านนอกใน ๔๐ ปีที่แล้ว (พ.ศ.๒๕๑๒) เวลาอันควรก็ชวนกันกลับ ผ่านห้วยจำปี ทางไปบ้านบาเจียง แวะชมทัศนียภาพ ทำให้ลุงนึกถึงตอนเด็กๆ อายุสัก ๑๐ ขวบ เห็นชาวบ้านทั้งหมู่บ้านมาอาบน้ำที่ริมคลองตอนเย็นๆ เป็นการรวมตัวกันสนุกมากในบรรยากาศแบบพี่ๆน้องๆ ฉากหลังเป็นทิวทัศน์บริเวณสะพานข้ามห้วยจำปี เป็นสะพานเหล็กรถสวนทางกัน บ่ได้(ยังบริเวณบ้านบาเจียง)

๑๘.๐๐ น.กลับมานอนที่โรงแรม “ฤาจะลืม”ที่ปากเซ และไปชิมเบียร์ลาว กินข้าวที่ริมแม่น้ำโขงเป็นอาหารค่ำ ตาเชิ้ม จ่ายค่าอาหารไป ๑๖๒,๐๐๐

๐๘.๐๐ น. จันทร์ ๑๒ เม.ย.๕๓ นาฬิกาไทยในประเทศลาว มุ่งหน้าสู่เมืองปากช่อง น้ำตก “ตาดเยือน” เยือน คือเลียงผา หรือ คูรัม ตาดคือน้ำตก ภาพบน บริเวณใต้น้ำตก จุดชมวิว ตาเชิ้ม ตาฉาย ลุง ตาดำ ชักภาพกับแผนผังน้ำตกฝีมือลาวล้วนๆ ลุงแอ๊ตเป็นผู้ถ่ายภาพ บริเวณนี้อยู่เหนือน้ำตก ตาดเยือน ด้านหลัง ตาเชิ้ม คือจุดเริ่มต้นตกของน้ำตก ด้านหลังคือจุดเหนือน้ำตกที่ทาง การลาวจัดเป็นที่ พักผ่อนของนักท่องเที่ยว ซึ่งเปิดให้คนลาวหาปลาได้ เหนือน้ำตกจัดเป็นที่ชมทิวทัศน์ ก่อนชมน้ำตก สั่งกาแฟสดๆ ซดกันคนละแก้ว แกล้มเนื้อกวาง และเนื้อ เก้ง(ฟาน) ย่าง โดยตาฉายสนใจแม่ค้าลาว ตาดำสนใจเครื่องเงิน บริเวณนี้ปลูกกาแฟ พันธุ์ โรบัสต้า เมล็ดใหญ่ ตาฉายเก็บเมล็ดมาด้วย
มีร้านขายของที่ระลึกบรเวณก่อนลงดูน้ำตก และมี เนื้อกวาง เก้ง หมูป่า ขาย ราคาไม่แพง ปีนที่ชันมากๆอาการคนแก่กำเริบ ต้องนั่งพักหอบก่อน แต่ตาฉายไม่กล้าปืนลงไปดูน้ำตก เพราะเป็นผู้อาวุโสมากกว่าเพื่อน (๗๗ ขวบ) กลัวจะได้อยู่ในลาวถาวร
หลังจากเสียค่าชมน้ำตก ๕๐๐๐ แล้ว ย้อนกลับหลังมาที่ “ตาดฟาน” ฟานคือ อีเก้ง ในภาพคือน้ำตกตาดฟาน อยู่ด้านล่างของ น้ำตกตาดเยือน เสียค่าชม ไป ๕ คน รวม ๒๕๐๐๐ กีบ หน้าป้าย อ่านว่า “ตาดฟานลิสอด” มีที่พักเป็นรีสอร์ทให้แขกเข้าพักด้วย
ตาเชิ้ม ยืนย้อนความหลัง เทียบกับเมืองไทยเมื่อ ๔๐ ปีที่แล้ว (พ.ศ.๒๕๑๒)สมัยคุณตาอายุสามสิบกว่าๆบริเวณหน้าน้ำตกมีร้านค้า ขายของที่ระลึกทุกคน มาละลายทรัพย์กันพอสมควร ตาเชิ้ม ซื้อกาแฟ ที่นี่ไปชิมในเมืองไทย เพราะพื้นที่ปากช่องปลูกกาแฟเป็นอาชีพหลัก
๑๐.๐๐ น.กลับปากเซ เพื่อซื้อของฝาก ที่ตลาดดาวเรือง และ ๑๔.๐๐ น. ประทับตรากลับไทย มาถึงอุบลทั้งทีก็เลยแวะเที่ยวบริเวณโขงเจียมสักหน่อย ชมวิวทิวทัศน์หน้าโรงพักโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ด้านหลังเป็นแม่น้ำโขง และฝั่งประเทศลาว
จุดนี้มีเรือรับจ้างพานักท่องเที่ยวไปเยียบแผ่นดินลาว บริเวณ ฝั่งลาวจะมีตลาดเล็กๆ
ดูลาวที่ฝั่งโขงเจียมส่งท้าย ลาก่อนประเทศลาว และสวัสดีประเทศไทย

อังคาร ๑๓ เมษา มหาสงกรานต์ ร้อนมากที่บ้านพ่อใหญ่อาจ มหาสารคาม พ่อ ป้าเหม่ง

พุธ ๑๔ เมษา ๕๓ ดูลำซิ่ง ราคา ๒๐,๐๐๐ บาทไทย ที่วัด เกสรเจริญผลหน้าบ้าน ป้าเหม่ง

พฤหัส ๑๕ เมษา ครูอ๊อตพาเที่ยว บริเวณ วัดบ้านสระ พระยืนโบราณ ใต้ต้นโพธิ์ แล้วพาชมรูปสลักพระกันทรวิชัยบนหินพระในโบสถ์ดินโบราณ เมืองเก่า อ.กันทรวิชัย อยู่ห่างจากวัดแรกประมาณ ๑ ก.ม. เป็นวัดประจำอำเภอ กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม พาชมพระยืน อีกองค์ พระโบราณ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ หน้าโบสถ์ วัดเดิมในตลาดกันทรวิชัย แล้วพาคุณตาทั้งสามชมพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์สิรินธร ที่ภูกุ่มข้าว อ.สหัสขันธ์ กาฬสินธุ์ พอตกตอนเย็น ตาพราหมณ์ฉาย ออกฤกษ์ตอนเย็นโกนหัว เด็กชายทรงวุฒิ ลูกของน้าหยุย-น้าทองคำ น้องสาว ป้าเหม่ง เตรียมบวชเณร แก้บน
โดยเช้ามืด ๐๕.๐๐ น. ศุกร์ ที่ ๑๖ เมษา ๕๓ พา ไปบวชเณรกับเจ้า คณะตำบล ณ วัดโขงใหญ่ อยู่ริมแม่น้ำชี อีกหมู่บ้านหนึ่ง
เสาร์ ๑๗ เมษา ๕๓ ไปส่งตาเชิ้มที่ จ.เลย อ.หนองหิน บ้านพ่อตาเจ้าเชาว์ลูกชายตาเชิ้ม
จันทร์ ๒๐ เมษา เช้า แวะที่วัดพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา ขณะเดินทางกลับปักษ์ใต้ ก่อนมุ่งหน้ากลับสุราษฎร์ธานี..สิ้นสุดการเดินทาง ด้วยถนนหมายเลข ๓ ตัดสู่ทางหลวงหมายเลข ๔ ปักษ์ใต้บ้านเรา...ลุงอ๊อต ผ.อ.ปณิธาน เรืองไชย ถ่ายภาพ เรียบเรียง